The McContent

By McBrown

ความมุ่งมั่นทำให้คนต่างกัน - วิทยาศาสตร์ของการเรียนรู้ที่ได้ผลจริง

เคยสงสัยไหมว่าทำไมบางคนเรียนอะไรก็เข้าใจเร็ว ใช้ภาษาอังกฤษได้คล่อง ในขณะที่บางคนเรียนเท่าไหร่ก็ไม่ไปถึงไหน? คำตอบไม่ได้อยู่ที่ “พรสวรรค์” หรือ “พื้นฐาน” เพียงอย่างเดียว แต่มันอยู่ที่ “วิธีการเรียน” และ “ความมุ่งมั่น” ที่แต่ละคนมีต่างกัน

ที่ McBrown เราออกแบบการเรียนรู้โดยใช้หลัก “Cumulative Learning” หรือ “การเรียนรู้แบบต่อยอด” ซึ่งหมายความว่าความรู้ใหม่ที่คุณเรียนจะถูกเชื่อมโยงกับสิ่งที่คุณเคยเรียนมาก่อน ทำให้สมองมีโครงสร้างความจำที่แข็งแรงขึ้น การเรียนแบบนี้ได้รับการสนับสนุนจากงานวิจัยของ Roediger & Butler (2011) ที่พบว่า “การทบทวนและนำความรู้เดิมมาใช้ซ้ำๆ ทำให้สมองจดจำและใช้งานข้อมูลได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

แบบฝึกหัดของ McBrown: เครื่องมือที่แยกคนธรรมดากับหัวกะทิ

ในห้องเรียนของ McBrown แบบฝึกหัดไม่ได้มีไว้ให้ทำส่งๆ แต่ถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการดึงข้อมูลออกมาใช้จริง นักเรียนต้อง แปลกลับไปกลับมาระหว่างภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ไม่ใช่แค่เพื่อฝึกคำศัพท์หรือไวยากรณ์ แต่เพื่อให้สมองได้ฝึกคิด ฝึกดึงข้อมูลที่เคยเรียนมาใช้ ซึ่งจะช่วยให้ภาษาอังกฤษกลายเป็นทักษะถาวร ไม่ใช่แค่สิ่งที่จำได้ชั่วคราว

แต่ที่น่าสนใจคือ นักเรียนแต่ละคนมีพฤติกรรมต่างกันอย่างชัดเจนเมื่อต้องทำแบบฝึกหัด

  1. บางคนจำไม่ได้เลยว่าเคยเรียนเรื่องนี้มา – อาจเป็นเพราะขาดการทบทวน หรือเรียนแบบผ่านๆ โดยไม่เคยนำไปใช้
  2. บางคนจำได้ แต่ขี้เกียจเปิดหนังสือ ทำผิด แล้วรอครูมาแก้ให้ – พวกเขาเลือกทางลัด หวังพึ่งคนอื่นมากกว่าพยายามแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
  3. คนส่วนใหญ่เลือกเปิดหนังสือ แล้วดูคำตอบให้ถูกต้อง – นี่เป็นวิธีที่ดีขึ้น เพราะพวกเขายอมรับว่าต้องทบทวนและเรียนรู้ใหม่

แต่ยังมี คนส่วนน้อยอีกกลุ่มหนึ่งที่โดดเด่นออกมาพวกเขาไม่เปิดหนังสือทันที แต่พยายามใช้สมองดึงข้อมูลที่เรียนมาให้ได้มากที่สุดก่อน

  • พวกเขาพยายามจำและคิดเองให้สุดความสามารถ
  • หากทำผิด ก็จะจำข้อผิดพลาดนั้น และไม่ผิดซ้ำในเรื่องเดิมอีก
  • เมื่อเริ่มทำถูกหมดแล้ว ก็จะเพิ่มความเร็วขึ้น และค้นหาจุดอ่อนใหม่ของตัวเอง

คนกลุ่มนี้แหละที่เรียกว่า “หัวกะทิ

 

สมองของคนหัวกะทิทำงานอย่างไร?

นักวิทยาศาสตร์พบว่า กระบวนการ “Active Recall” หรือ “การดึงข้อมูลออกมาใช้โดยไม่พึ่งพาสิ่งเร้า” เป็นหนึ่งในเทคนิคการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพที่สุด (Karpicke & Blunt, 2011) การพยายามจำสิ่งที่เรียนมาโดยไม่เปิดดูคำตอบทันที เป็นการกระตุ้นสมองให้สร้างการเชื่อมโยงที่แข็งแกร่งขึ้นระหว่างข้อมูล ทำให้จดจำได้นานขึ้นและนำไปใช้ได้ดีขึ้น

นอกจากนี้ “Desirable Difficulty” หรือ “ความยากที่พอดี” (Bjork, 1994) ก็เป็นอีกแนวคิดหนึ่งที่อธิบายว่า เมื่อเราเผชิญกับความท้าทายที่สมดุล ไม่ง่ายเกินไปหรือตึงเครียดเกินไป สมองจะพัฒนาและเรียนรู้ได้ดีที่สุด ดังนั้น การฝึกดึงข้อมูลมาใช้ก่อนเปิดหนังสือ จึงเป็นการเพิ่ม “ความยากที่พอดี” ให้กับสมอง และช่วยให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพสูงสุด

 

แล้วคุณล่ะ? อยากเป็นแค่ผู้เรียนทั่วไป หรืออยากเป็นหัวกะทิ?

ความแตกต่างระหว่างคนที่ “เรียนแล้วลืม” กับคนที่ “เรียนแล้วเก่งขึ้นเรื่อยๆ” อยู่ที่การเลือกวิธีการเรียน และที่ McBrown เราออกแบบระบบให้คุณได้ฝึกสมองให้เก่งขึ้น ไม่ใช่แค่ท่องจำ

📌 McBrown Standard Course – คอร์สที่ช่วยให้คุณใช้ภาษาอังกฤษได้จริง

ใช้หลักการ Cumulative Learning – สอนให้คุณเรียนต่อยอดและจดจำได้นาน

แบบฝึกหัดที่ฝึกให้คุณคิด ไม่ใช่แค่จำ – เสริมทักษะ Active Recall และ Desirable Difficulty

ปรับการเรียนรู้ให้เหมาะกับคุณ – ไม่ว่าจะเป็น In-Class, Interactive Online หรือ Hybrid R+

ถ้าคุณเชื่อว่า “ความมุ่งมั่นทำให้คนต่างกัน”

McBrown พร้อมจะพาคุณไปถึงจุดที่คุณต้องการ!

#เรียนให้ได้ผล #McBrown #ไม่ใช่แค่เรียนแต่ใช้ได้จริง

Need some help?

อยากทราบรายละเอียดหรือเปล่า?
ลองดูรายละเอียดคอร์สที่แนะนำดูก่อนสิ เผื่อจะช่วยได้