Digital Nomad คืออะไร?

ในยุคที่เทคโนโลยีเชื่อมโลกเข้าไว้ด้วยกัน การทำงานไม่จำเป็นต้องอยู่แค่ในออฟฟิศอีกต่อไป นี่จึงเป็นที่มาของคำว่า Digital Nomad หรือ “ชนเผ่าเร่ร่อนดิจิทัล” ซึ่งหมายถึงกลุ่มคนที่สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ในโลก ผ่านอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นฟรีแลนซ์ นักเขียน โปรแกรมเมอร์ หรือแม้แต่พนักงานบริษัทที่ทำงานระยะไกล

ทำไมถึงเรียกว่า Digital Nomad?

คำว่า “Nomad” หมายถึงนักเดินทางเร่ร่อนที่ไม่มีถิ่นฐานประจำ ส่วน “Digital” สื่อถึงการใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือหลักในการทำงาน ดังนั้น Digital Nomad ก็คือคนที่เดินทางไปเรื่อย ๆ โดยไม่ต้องยึดติดกับสถานที่ แต่ยังคงสามารถทำงานได้ผ่านอินเทอร์เน็ต

Digital Nomad มักเลือกใช้ชีวิตในประเทศที่ค่าครองชีพไม่สูงมาก แต่มีคุณภาพชีวิตดี เช่น บาหลี เชียงใหม่ ลิสบอน และบาร์เซโลนา เพราะสามารถใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่ดี ในขณะที่ยังคงสร้างรายได้จากงานที่ทำผ่านระบบออนไลน์

Digital Nomad Visa คืออะไร?

แม้ว่า Digital Nomad จะสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ แต่ปัญหาคือ วีซ่าท่องเที่ยวทั่วไปมักไม่อนุญาตให้ทำงานหลายคนจึงอยู่ในพื้นที่หนึ่งได้เพียงไม่กี่เดือนและต้องเดินทางออกไป

นี่จึงเป็นที่มาของ Digital Nomad Visa ซึ่งเป็นวีซ่าที่อนุญาตให้คนทำงานระยะไกลพำนักอยู่ในประเทศนั้น ๆ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยไม่ต้องเป็นพนักงานของบริษัทในประเทศนั้น

ข้อดีของ Digital Nomad Visa

• อยู่ในประเทศนั้นได้นานขึ้น (6 เดือน – 5 ปี ขึ้นอยู่กับประเทศ)
• ไม่ต้องกังวลเรื่องกฎหมายการทำงานผิดเงื่อนไขวีซ่าท่องเที่ยว
• บางประเทศให้สิทธิพิเศษ เช่น ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้จากต่างประเทศ

ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง?

แต่ละประเทศมีข้อกำหนดที่แตกต่างกัน แต่โดยทั่วไปต้องใช้เอกสารดังนี้

• หนังสือเดินทาง (Passport) – ต้องมีอายุเหลืออย่างน้อย 6-12 เดือน
• หลักฐานรายได้ – เช่น สลิปเงินเดือน ใบแจ้งยอดบัญชี หรือสัญญาจ้างงาน
• จดหมายจากนายจ้าง หรือหลักฐานการเป็นเจ้าของธุรกิจ – เพื่อยืนยันว่าทำงานระยะไกลจริง
• ประกันสุขภาพระหว่างประเทศ – ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล
• หลักฐานที่พัก – เช่น สัญญาเช่าอพาร์ตเมนต์ หรือใบจองโรงแรม
• ใบรับรองไม่มีประวัติอาชญากรรม – บางประเทศต้องการเพื่อพิจารณาความปลอดภัย

ต้องใช้คะแนนภาษาอังกฤษไหม?

ส่วนใหญ่ไม่ต้องใช้คะแนนสอบภาษาอังกฤษ แต่บางประเทศอาจมีข้อกำหนด เช่น

• โปรตุเกส (D7 Visa)– อาจต้องสอบภาษาโปรตุเกสระดับ A2 หากต้องการพำนักระยะยาว
• แคนาดา และอังกฤษ– วีซ่าบางประเภทอาจต้องใช้ IELTS หรือ TOEFL
• ประเทศอื่น ๆ เช่น ดูไบ เอสโตเนีย บาหลี ไทย– ไม่มีข้อกำหนดด้านภาษาอังกฤษ

อย่างไรก็ตาม การมีทักษะภาษาอังกฤษที่ดีจะช่วยให้ชีวิต Digital Nomad ง่ายขึ้นเช่น การสมัครวีซ่า การเช่าที่พัก หรือการเปิดบัญชีธนาคาร

อยากเป็น Digital Nomad แต่ภาษาอังกฤษยังไม่แข็งแรง? McBrown ช่วยคุณได้!

หากคุณกำลังวางแผนเป็น Digital Nomad และต้องการ พัฒนาภาษาอังกฤษให้พร้อมสำหรับการใช้ชีวิตและการทำงานในต่างประเทศ McBrown ขอแนะนำคอร์ส To Study

📌คอร์ส To Study คืออะไร?

คอร์สนี้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณ พัฒนาภาษาอังกฤษในทุกด้าน โดยเฉพาะทักษะที่จำเป็นสำหรับ Digital Nomad เช่น

• ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง – เพื่อให้สื่อสารอย่างมั่นใจ
• คำศัพท์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันและการทำงาน – เหมาะสำหรับคนที่ต้องพึ่งพาภาษาอังกฤษในการทำงาน
• การฟังสำเนียงอังกฤษหลายรูปแบบ – ฝึกฟังสำเนียงอังกฤษ ออสเตรเลีย อเมริกัน อินเดีย และสิงคโปร์
• การพูดที่เป็นธรรมชาติและลื่นไหล – เพื่อให้คุณสื่อสารกับผู้คนทั่วโลกได้อย่างคล่องแคล่ว

💰 ค่าเรียน: 65,900 บาท

💳 ผ่อน 0% 10 เดือน กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ

หากคุณฝันอยากเป็น Digital Nomad แต่ยังไม่มั่นใจเรื่องภาษาอังกฤษ เริ่มต้นเตรียมความพร้อมวันนี้กับ McBrown! 🚀

📞 ติดต่อเรา เพื่อขอคำปรึกษาและทดลองเรียนฟรี!

📢 สรุป

Digital Nomad Visa คือโอกาสสำหรับคนที่อยากใช้ชีวิตและทำงานจากที่ไหนก็ได้ในโลก หากคุณพร้อมแล้วที่จะก้าวสู่ไลฟ์สไตล์ที่อิสระ แต่ยังต้องการเสริมความแข็งแกร่งด้านภาษาอังกฤษ คอร์ส To Study ของ McBrown คือก้าวแรกสู่ความสำเร็จของคุณ!